วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558

Chapter 6 แข่งกันทำเซอร์ไพรส์

ว่าด้วยเรื่องการเซอร์ไพรส์ ปลาเชื่อว่าทุกคู่ก็น่าจะมีเรื่องแบบนี้บ้าง ไม่มากก็น้อยเนอะ
...................

อย่างของคู่ปลากับพี่ตั้ม มันดูจะเป็นเซอร์ไพรส์ที่ตลกมากกว่า
ทั้งทุลักทุเล ขำ ฮา ฮาปนเศร้า ฮาไม่ออก

โดยส่วนตัวปลาเป็นคนชอบการทำเซอร์ไพรส์มาก ติดนิสัยแบบนี้มาตั้งแต่ช่วงมหาลัย
ถ้าเป็นวันเกิดเพื่อน ปีแรกๆ เพื่อนจะงง ๆ จับแนวเราไม่ได้
เราจะชอบเซอร์ไพรส์แบบแกล้งๆ เอาฮาอ่ะ คือเรามีความสุข (เลยคิดเองด้วย)ว่าเพื่อนก็ต้องมีความสุข
หลังๆมาเพื่อนก็จับไต๋ได้นะ รู้แล้วว่าใกล้วันเกิด มึงตองเซอร์ไพรส์กูแน่ๆ
แล้วส่วนใหญ่ พอถึงวันเกิดตัวเอง เพื่อนจะตีบตัน แบบไม่รู้จะเซอร์ไพรส์อะไรเราดีอ่ะ
เพื่อนพูดเลยนะว่า "วันเกิดสุธิดาอ่ะ เค้าไม่รู้จะทำไงดี เอาแบบธรรมดาๆ แล้วกันนะ"

แต่ปลาไม่ค่อยมายด์เท่าไร คือมันเป็นความสุขของเราเวลาเราแกล้งเพื่อนอ่ะ
ดังนั้น วันเกิดตัวเองเลยไม่ค่อยมีอะไรมาก ไม่ใช่เพื่อนไม่สนใจหรอก แต่เพื่อนหมดมุขแล้วค่ะ 5555

ที่จะเล่าก็คือ "วันเกิดพี่ตั้ม"

24  มิถุนายน 2557
เป็นปีแรกที่ปลาอยู่ฉลองวันเกิดกับพี่ตั้ม เพราะเราเพิ่งคบกัน
ไม่รู้สิ!! สำหรับวันเกิด ปลาว่ามันเป็นวันสำคัญนะ มันเป็นวันที่ใน 1 ปีมีครั้งเดียว
ถ้ามีใครสักคน เราก็อยากให้เค้ามีความสุขมากๆในวันเกิดของเค้า

การเซอร์ไพรส์วันเกิดพี่ตั้ม เป็นอะไรที่คิดแปบเดียวแล้วลงมือทำเลย
โดยมีเพื่อนเรา (จุ๊บกับแพร) เป็นผู้ช่วย
แรก ๆ ก็คิดก่อนว่าจะทำประมาณไหน เพราะก็เข้าใจนะว่าเป็นวันเกิดผู้ชาย
หน่อมแหน้มก็ตลกไป ถ้ามีแค่เค้กแล้วร้องเพลงก็เอ้าท์ไปแล้ว
มันต้องมีอะไรที่มากกว่านั้น ตกใจกว่านั้น เซอร์ไพรส์กว่านั้น
(อินี่คิดเวอร์ตลอด แต่พอทำจริงๆ แม่งพังพินาศได้อีก 555555)

เริ่มจากอุปสรรคเรื่องสถานที่ก่อนเลย นึกออกมั้ยว่าเราเล็งร้านนี้ไว้ว่าเราจะจัดวันเกิดงี้
แต่พอขับรถไปหน้าร้าน สรุป "ร้านปิด 1 วัน"
ปลาเริ่มสติหลุดตั้งแต่ร้านที่จะจัดงานปิดนั้นแหละ 55555 ก็โทรปรึกษาเพื่อนจนหาร้านใหม่ได้
พอคุยกับพี่ตั้ม คือเรารู้ตัวเองนะว่าเรามีพิรุธหลายกรณี จนเค้าน่าจะพอจับทางได้
แต่ไหนๆก็ไหนๆ แล้วอ่ะ งานเลี้ยงมันก็ต้องมีต่อ ถูกมั้ย? 55555

พี่ตั้มบอกเดี๋ยวพี่ไปรับนะ เราก็รีบปฏิเสธว่า "เดี๋ยวหนูไปเอง"
นี่คือความผิดปกติที่ 1 (พี่ตั้มบอกพี่พอจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วล่ะ - -")
สรุปเราก็มารอที่ร้านกับเพื่อนก่อน พอพี่ตั้มมาก็นั่งกินกันปกติ
ก่อนหน้านี้เราไปตกลงกับเจ้าของร้านแล้วนะ ว่าจะเอาแบบไหน เซอร์ไพรส์ยังไง
เจ้าของร้าน (ผู้หญิง)ก็ดูเข้าใจอะไรง่ายๆ อธิบายนิดหน่อยคือนางดูเกทแล้ว

สักพักเราขอไปเข้าห้องน้ำกับเพื่อน เพราะจะไปบอกกับเจ้าของร้านว่าให้เตรียมเค้กได้แล้ว
ตอนนั้นเจ้าของร้าน (ผู้ชาย) กลับมาพอดี เราก็ไม่อะไร
ไปเข้าห้องน้ำเสร็จ ก่อนเดินกลับโต๊ะก็แวะบอกเค้าที่เคาท์เตอร์ว่าพอปิดไฟแล้วเอาเค้กไปที่โต๊ะเลยค่ะ

นั่งกินกันไปเรื่อยๆ เจ้าของร้าน (ผู้ชาย) เดินถือเค้กกับมีดมา ที่สำคัญไฟไม่ปิด เทียนไม่จุด
OMG!!!!!!!!!
นี่คือเซอร์ไพรส์หราาาาาาาาาาาาาาาาา เซอร์ไพรส์มากกกกกกกกกกเลยยยยยยย
เราก็แบบ จะแกล้งๆ ถามเค้าว่า "เอ่อพี่คะ สงสัยผิดโต๊ะนะ ไม่ใช่เค้กโต๊ะนี้"
"ใช่ครับ ของโต๊ะนี้แน่นอน" - -" เอิ่มมมมมมมม ปลาก็ได้แต่ทำหน้าแหยๆ
สุดท้าย คือ เซอร์ไพรส์ด้วยการมาช่วยกันจุดเทียนเอง ปิดไฟเอง ร้องเพลงเอง

งานล่มแบบพังพินาศระดับ 10 จ้าาาาาาาาา




























ป้ายคำว่า "Happy Birthday" เอากระดาษรร. สายรุ้งก็ของรร. คิดวันนั้น ทำวันนั้น






























































ถามพี่ตั้มว่าเคยมีใครทำให้แบบนี้มั้ย? 
ที่ถามไม่ใช่ว่าจะอะไรตัวเองนะ แต่เราอยากรู้ว่าเค้าชอบมั้ย? รู้สึกยังไง
พี่ตั้มบอก ไม่เคยมีใครทำให้แบบนี้หรอก ขอบคุณนะ

บอกเลยว่าปลาก็มีความสุขเหมือนกันนะ มันไม่ใช่ว่าเราอยากจะทำอะไรแบบนี้เพื่อให้เหมือนใคร
แต่มันเป็นความสุข ที่ทำให้วันสำคัญของใครสักคนมีความสุข 
แม้มันจะทุลักทุเลไปบ้าง แต่วันนั้นทุกคนก็มีเสียงหัวเราะ

อยากให้ 1 วันในแต่ละปีเป็นวันที่พี่มีความสุข มีรอยยิ้ม ยิ้มเยอะๆ
ปลาตั้งใจทำให้ แล้วก็จะทำไปตลอด ^^ 



-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ปฏิบัติการเอาคืน

16 พฤศจิกายน 2557

อืมมมมมมมมมมมมม คราวนี้วันเกิดปลาบ้าง
ตอนแรกคิดไม่ออกหรอกว่าพี่ตั้มจะเซอร์ไพรส์ยังไง เราเป็นคนคิดเยอะอยู่แล้ว
ใครทำอะไรนี่จะพยายามจับพิรุธทั้งหมด
แต่สิ่งที่ปลากับพี่ตั้มแตกต่างกัน คือ "พี่ตั้มเนียนกว่า" เยอะ!!!

พี่ตั้มใช้มุขเนียนทำเป็นลืม เหมือนปีก่อนที่ลืมวันเกิดปลา โดยจำผิดว่าปลาเกิดวันที่ 17
แล้วก็พยายามทำตัวยุ่ง มีเรื่องโน้นเรื่องนี้เข้ามาเพียบ
ตอนแรกจะไม่เชื่อหรอก แต่มันเนียนเกินไปไง เราเลยคิดเหมือนกันนะว่าเค้าลืมจริงๆ

ตอนนั้นเสียใจอ่ะ บอกตรงๆ เพราะเราคิดไงว่าวันเกิดมันสำคัญ ปีที่แล้วก็ลืม ปีนี้จำเป็นต้องลืมอีกหรอ?
คุยกับเพื่อน เพื่อนก็ปลอบใจนะ แต่ปลอบใจแบบให้กูคิดมากเข้าไปอีก 5555555

ในชีวิตปลา ตั้งแต่มีแฟนมา ไม่เคยมีคนไหนเซอร์ไพรส์ปลาเลย
มีอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกไรมาก (หรือเราคาดหวังเกินไป)
สักครั้งเราอยากมีโมเม้นแบบ......มีลูกโป่งหลายๆ ลูกรอบตัว มีเค้ก มีเพื่อนเรา มีดอกไม้ที่เราชอบ
พอบอกเพื่อน เพื่อนด่าว่า "อิบ้า อย่าเยอะ!!!"
ก็คิดนะว่ามันเยอะจริงๆ เราไม่ใช่เซเลป ไม่ใช่ดารา ไม่ใช่นางฟ้าที่จะมีผช.มาประเคนของให้
แต่ใจเรามันอยากได้ไง อยากมีโมเม้นแบบนี้ อยากมากกกกกกกกกก

แต่พี่ตั้มเงียบมาก คือเหมือนว่าวันเกิดปีนี้จะไม่มีอะไรเลย ในตอนแรกคิดแบบนั้น
พอใกล้วันเข้าก็......มันมีพิรุธข้อสงสัยหลุดมาหลายอย่างนะ สรุป !! พี่ตั้มก็ทำไม่เนียน 5555
แต่ทุกอย่างที่ปลาอยากให้มี เค้าหามาให้หมด ทั้งดอกไม้ ลูกโป่ง แล้วก็เค้ก

พอเห็นเค้าเดินเข้ามาพร้อมดอกไม้เราก็รู้สึกแบบ..... OMG!!!
นั่งหน้าเหวอไปนิดนึง ขำตัวเองด้วย แล้วก็อายแทนเค้าด้วย มันบรรยายไม่ถูกเลย
ยิ่งพอมารู้เบื้องหลัง ว่าเพื่อนเราช่วยไปหาลูกโป่ง ยัดใส่รถมากว่า 50 ลูก 
แล้วไหนจะสารพัดหาคำปลอบใจช่วงเรานอยด์ๆ โอ้ยยยยย มันเกินกว่าที่จะบรรยายอ่ะ

ขอบคุณนะคะ วันเกิดปี 57 
เป็นอีก 1 ความทรงจำที่ดีมากถึงมากที่สุด
ฮากว่านั้นคือ กลับบ้านพ่อถามบ้าหรือเปล่า เล่นไรกันเป็นเด็กๆ 






































                          ❤


วันศุกร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2558

Chapter 5 สุภาพบุรุษ

คำนี้อาจจะฟังดูทางการไปหน่อย
ก่อนที่จะเขียนเรื่องนี้ คิดอยู่นานเลยว่าวันนี้จะเขียนอะไรดี
เรื่องมันมีเยอะ ที่ผ่านมาอย่างเขียนเก็บไว้ตั้งแต่แรกๆ ตอนนี้เพิ่งลงมือทำ
ลืมบ้าง เขียนไม่หมดบ้าง เล่าไม่ละเอียดบ้าง ไม่ว่ากันเนอะ :-)


พี่ตั้มเป็นผู้ชายโก๊ะๆ ค่ะ แขนขายาว เวลาเดินชอบกลัวว่ามือจะไปโดนคนโน่นคนนี่
เป็นผู้ชายที่ดูสุภาพ จำได้ว่าเวลาเราไปจปร.เพื่อไปออกกำลังกายกัน 
เค้าจะทักทายทหารที่คอยแลกบัตรทุกครั้ง  
เคยเดินด้วยกัน แล้วเราซุ่มซ่ามเหมือนจะล้ม ชนโน่นนี่ตลอด เค้าก็จะคอยเข้ามาประคอง
มันดูเกินไปเนอะ ปลาก็ว่างั้น แต่เค้าทำแบบนี้ตลอดเลย ทำตั้งแต่เราเฉยๆ จนเรารู้สึกดี

"ยางมัดผม"
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ปลาเริ่มประทับใจในตัวเค้ามากขึ้น
เรื่องมีอยู่ว่า วันนั้นไปตีแบดกันที่โรงยิม ปลามัดผมไป แล้วยางดันขาด
ปลาเลยหยุดตีแล้วพยายามมัดผมด้วยยางขาดๆ นั้น แต่ไม่สามารถไง เป็นคนมือไม่นิ่ง
อยู่ดีๆ พี่ตั้มก็เดินมาข้างหลัง แล้วผูกยางตัดกัน แล้วมัดผมให้

>////////<
"แม่งเหมือนในซีรีส์เลยว่ะ" ปลานึกในใจ ฮ่าๆๆๆๆๆ

"รองเท้าขาด"
เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนไปเชียงใหม่ เราไปเดินตลาดนัดย่านวัวลายกัน
ปลาใส่รองเท้าที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ระหว่างเดินไปก็รู้สึกนะว่าตรงพื้นรองเท้ามันมีอะไรติด
แต่เป็นคนซกมกไง เป็นไงก็เป็นงั้น ปล่อยไป
จู่ๆ พี่ตั้มก็ก้มลงจับเท้าแล้วก็จะดึงออกให้ ......... คนเยอะนะ ไม่ใช่น้อยๆ เลย
ปลาทั้งเขิน ทั้งอายคนด้วยแหละ แต่พี่ตั้มดูจะไม่มีท่าทีอายเลย
รปภ.ที่ยืนแถวนั้นก็เอาแต่จ้องมา จนปลาต้องบอกให้พี่ตั้มพอ เดี๋ยวปลาดึงเอง

มันมีอีกหลายๆ อย่างนะที่พี่ทำให้ บางเรื่องมันเป็นความซกมกซุ่มซ่ามของปลาเอง
แต่พี่ก็ไม่มีท่าทีรังเกียจ จนปลางงว่ายังมีคนแบบนี้ในโลกหรอ???



ตั้งแต่มีแฟนมา มีผู้ชายหลายคนช่วยปลาถือกระเป๋า มีผู้ชายหลายคนเดินจูงมือ ประคองเรา

แต่ผู้ชายคนนี้ทำมากกว่านั้น แล้วก็ทำมาโดยตลอด
มันทำให้เรารู้สึกโชคดีนะ เราโชคดีที่เจอคนแบบนี้ บางทีเลยกลัว กลัวว่าต่อไปมันจะมีอะไรเปลี่ยนไปมั้ย
พี่จะยังอยากทำแบบนี้อยู่หรือเปล่า? ถ้าเวลาผ่านไปนานกว่านี้
เป็นผู้หญิงนี่ลำบากนะ เค้าทำดีก็คิดมาก คิดเล็กคิดน้อย คิดไปหมด ><


ขอบคุณนะคะ ขอบคุณที่ทำให้ปลาเป็นคนโชคดี รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยมาโดยตลอด

:)

วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2558

Chapter 4 เพราะเวลาเป็นเหตุ

เวลา
เวลา
เวลา
เวลา
เวลา



ไหนบอกว่าไม่เคยทะเลาะกันเรื่องเวลาเลยไง
ลืมไปว่ามันมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เวลาเป็นเหตุให้เรางอนกัน
นี่น่าจะหนักสุดแล้วมั้ง เพราะปลาร้องไห้  แต่พี่ตั้มไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ปลาทำตัวเอง 55555

เรื่องมันมีอยู่ว่า วันนั้นเรานัดกันว่าจะไปไหนสักที่ น่าจะไปกินข้าว
จริงๆ แล้วพี่ตั้มยุ่งนะช่วงนั้น เพราะเสาร์ - อาทิตย์พี่ตั้มต้องทำงานที่สวน ปู่เองก็สุขภาพไม่ค่อยสู้ดี
จุดนี้เราเข้าใจ แต่ใจทั้งคู่มันก็อยากเจอกัน
พี่ตั้มบอกว่ามาได้ เราเห็นแบบนั้นก็โอเค นัดกันดิบดี 11 โมงเจอกันนะ เดี๋ยวพี่มารับ
เรารอจนเกือบเที่ยง พี่ตั้มเงียบ .... เราก็เงียบ

คือปลาจะเป็นคนประเภทไม่ตามใคร เพราะถ้าใครผิดนัด จะด่าตอนที่มาเจอกันเลยทีเดียว
ไม่ตามจิกให้เสียอารมณ์ทั้งคู่ แล้วมาเจอกันก็มาด่ากันอีก ค่อยเก็บไว้ด่าทีเดียว 5555
พอเที่ยงครึ่งแล้วเราเลยส่งไลน์ไปว่า "จะเอายังไง รอนานแล้วนะ ..."
นึกออกมั้ยว่าปลาก็โทรตามได้ แต่ไม่โทร ส่วนนี้ด้วยมั้ง ทำให้พี่ตั้มคิดว่าเราก็ไม่รีบ รอได้
แต่มันหนักขึ้น พอรอไปถึง 13.30 น. สุดท้ายพี่ตั้มก็โทรมาหรือส่งข้อความมาเนี่ยแหละว่าที่บ้านมีเรื่อง
เดี๋ยวเย็นเอาของมาให้แม่ทีเดียวเลยแล้วกันนะ

นึกหน้าปลาด้วยนะ ว่าตอนนั้นปลาทำหน้ายังไง?
ปลาเจอมาบ่อย สำหรับคนผิดนัด คนไม่รู้เวลา ยอมรับว่าตอนนั้นโกรธมากกกกกกกก
คือถ้าบอกกันตั้งแต่ช่วงแรกว่าวันนี้ไปไม่ได้ ติดอะไรก็แล้วแต่ ปลาก็จะไม่ว่า
แต่นี่รอให้ปลาตาม มันไม่ใช่  เพราะปลาเองก็จะไม่ตาม (บอกแล้วเก็บไว้ด่าทีเดียว 5555)
ปลารอมาตั้งแต่ 11 โมง จนถึงบ่ายสองด้วยใจที่ไม่สบอารมณ์ แล้วคิดว่าปลาจะอยู่รอเจอตอนเย็นมั้ย?

ปลาขับรถออกจากบ้าน เอารถไปล้าง ล้างเสร็จก็ขับไปเรื่อยๆ ขับไปร้องไห้ไป
ปลาไม่ได้ต้องการให้พี่มาเพื่อที่จะมากินข้าวกันมากขนาดต้องร้องไห้เสียใจนะ
แต่ปลาโมโห ทำอะไรไม่ได้ปลาก็ร้องไห้
ปลาปรึกษา "จุ๊บ" เพื่อนสนิท ว่าปลาจะเลิก ปลจะไม่ทน แล้วก็โวยวายจนเพื่อนบอกให้ใจเย็น
ตอนนั้นมันเย็นไม่ได้หรอก ในหัวก็คิดแค่ว่า "มีเรื่องอะไรหนักหนา ถึงต้องออกมาไม่ได้ขนาดนั้น"
"มือถือน่ะมีไว้ขว้างหัวหมาเหรอ ทำไมไม่โทรบอก จะให้รอทำไม"

ปลาบล๊อคเบอร์พี่ตั้มด้วย เพราะรู้ว่าต้องโทรมาหาปลา  ไม่อยากรับแล้วตัดสาย บล๊อคแม่งเลย
ซึ่งมารู้ตอนหลังว่าพี่โทรมานั่นแหละ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าบล๊อคไว้ 5555555 งงต่อไปปปปปปค่ะ
จนเย็นมาก พ่อโทรตามให้กลับบ้าน ปลาถึงค่อยๆ ถามพ่อว่าพี่มาหรือยัง
พ่อบอกมาแล้ว แล้วก็ไปแล้ว  ปลาเลยกลับบ้าน .......... ฮ่าๆๆๆ


สรุปเลย วันนั้นที่พี่มาไม่ได้เพราะที่บ้านบ่นนิดหน่อยว่าจะออกไปไหน งานที่บ้านทำไมไม่ทำ
เอาจริงๆ ถ้าปลารู้ว่าเป็นแบบนี้ปลาจะอยากให้พี่ออกมามั้ย?
จริงๆ แล้วมีไรควรบอกกันนะ ถ้าไม่ว่าง แต่บอกกัน มันจะไม่เกิดปัญหาเลย
แต่ถ้าพี่จะเอาทั้งสองอย่าง คืองานที่บ้านด้วย มาหาปลาด้วยมันเป็นไปไม่ได้หรอก
สุดท้ายปลาเลยแกล้งบอกไปว่าถ้าจะง้อให้หายงอน ต้องเลี้ยงข้าวแล้วซื้อดอกไม้ให้

ผ่าง

ผ่าง

ผ่าง!!!






























ไอ่ตอนบอกไปก็ไม่คิดหรอกว่าผู้ชายคนนี้จะทำจริง
ปกติก็เลี้ยงข้าวเราอยู่แล้ว อันนี้เฉยๆ เข้าใจได้ แต่ดอกไม้!!!
คือนั่งกินเอ็มเค คุยกันไปสนุกสนาน จู่ๆ มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกุหลาบช่อใหญ่สีชมพู
เดินตรงมาที่โต๊ะเรา ..... เอ่อ เราเองก็รู้สึกหน้าชาๆ นะเพราะคนที่ร้านมองกันหมด
สุดท้ายคนที่หน้านิ่งๆนี่ล่ะหลุดยิ้มออกมา

:)

ตาแก่เอ้ย!!!! จะเซอร์ไพรส์ที่อื่นก็ไม่ได้นะ .... ขอบคุณนะคะ โอเค หายงอนแล้ว
(จริงๆ หายตั้งนานแล้วล่ะ กร๊ากกกกกกกก)

วันพุธที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2558

Chapter 3 มากกว่าเพื่อนแต่ (ยัง) ไม่ใช่แฟน

ในช่วงแรก ๆ ที่คุยกัน พี่ตั้มจะมาหาบ่อยๆ
จะชวนไปตีแบด ไปออกกำลังกาย ไปกินขนม บลา บลา ตามประสาคนจีบกัน
ปลาจะบอกเสมอว่าตอนนี้เรายังไม่ได้เป็นอะไรกันนะ มันยังอยู่ในช่วงเวลาของการดูใจ
ยังมีอีกหลายๆ อย่างที่ปลายังไม่แน่ใจ บางครั้งเรียกว่ายังไม่รู้สึกก็ได้ว่าคิดกับคนๆนี้ยังไง

"แล้วพี่ก็จะบอกว่าพี่เข้าใจเสมอ"

เราไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขึ้น แต่ก็จะไปกันได้แค่ระยะเวลาแปบเดียว
เพราะช่วง 18.30 น. พี่ตั้มจะต้องไปรับอาที่ร้านขายของในตลาด
ส่วนหนึ่งที่ปลาประทับใจผู้ชายคนนี้ ก็คือความจริงใจของเค้านะ 
เค้าไม่อายที่จะบอกว่าที่บ้านทำอะไร ไม่อายอาชีพ หรือสิ่งที่ตัวเองเป็น
ในขณะที่ผู้ชายหลายๆคนเลือกที่จะไม่พูดหรือบอกอะไรมากเวลาจีบผู้หญิง

พี่ตั้มเป็นหลานชายคนโตของบ้าน เป็นลูกชายคนโตของครอบครัว
พี่ตั้มมีพี่น้องอีก 2 คน เป็นหญิง 1 ชาย 1
พี่ตั้มบอกปลาตั้งแต่แรกว่าที่บ้านทำสวน เพราะมีที่ทางเยอะ แล้วอาก็ขายของอยู่ที่ตลาด
ป๋าพี่ตั้มเป็นทนาย ส่วนแม่เปิดบริษัทอยู่ที่กทม. น้อง ๆ เองก็เรียนและทำงานที่กทม.
ตัวพี่ตั้มถูกอาเอามาเลี้ยงตั้งแต่ยังเด็กที่นครนายก ทำไมสนิทกับอามาก
ปลาชอบตรงที่พี่บอกเลยว่าพี่เป็นชาวสวนนะ พี่แต่งตัวไม่เก่ง พี่ไม่ได้ขับรถหรู
สารภาพเลยตอนแรกพอได้ฟังปลาก็เริ่มคิด ว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นยังไง
โดยส่วนตัวปลาคิดแล้วว่าสไตล์การใช้ชีวิตเราไม่เข้ากันเลย ไม่มีอะไรในแบบของพี่ที่ปลาชอบ
ด้วยความตรง ปลาก็พูดเลยว่า "ปลาไม่ค่อยคุ้นเท่าไรกับรถกระบะ" หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ
"ไม่ชอบรถกระบะเก่าๆ ของพี่" "ปลาหัวสูงด้วย" "ปลาใช้เงินเปลือง"
เชื่อมั้ย? ที่ตลกคือ พี่บอกว่า "พี่รู้" ................ 55555555555555
ตอนแรกก็คิดนะ ว่าเราบอกเค้าแล้วว่าเราเป็นยังไง ถ้ายังอยากจะจีบเราต่อก็แล้วแต่นะ

อีกเรื่อง คือ เรื่องของเวลา  แน่นอนว่าหลานชาย หรือลูกชายคนโตต้องเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัว
เวลาที่เราจะเจอกันเลยมีน้อย แต่สิ่งนี้เป็นสิ่งที่พี่ตั้มเลือกจะบอกปลาก่อน
โดยให้เหตุผลว่า ถ้าพี่มีปัญหาเรื่องเวลา พี่จะไม่ยอมปล่อยให้มันเป็นปัญหา 
ถ้าจะเลิกกัน ปลาจะมาบอกเหตุผลว่า "พี่ไม่มีเวลาให้เลย" ไม่ได้!!!!



จากวันนั้น จนถึงวันนี้เราไม่เคยทะเลาะกันเรื่องการไม่มีเวลาให้กันเลย
คือ แทบจะไม่ทะเลาะกันเลย มันแปลกอยู่นะ แต่เวลาเราจะทะเลาะกันทีไร ปลาก็รู้สึกโกรธพี่ไม่ได้ทุกที
จะมีก็แต่เรื่องมาสาย มาช้า แล้วก็ผิดนัดปุบปับบ้าง ที่ปลาจะโกรธ 
ที่โกรธเพราะยังไม่ได้คุยกัน พอคุยกัน ถ้ามีเหตุผลปลาก็ไม่รู้จะโกรธไปทำไม

ปลาไม่ค่อยงี่เง่ากับเรื่องพวกนี้นะ แล้วปลาก็จะบอกเสมอว่า "ถ้าต้องเลือก ขอให้เลือกครอบครัวก่อน"
สำหรับปลา ปลาไม่ได้ต้องการคนที่จะมาตัวติดกันตลอดเวลา
แต่ปลาต้องการคนที่แม้ไม่มีเวลาอยู่ด้วยกัน แต่กลับรู้สึกอุ่นใจตลอดเวลาต่างหาก


"บางคนอยู่ใกล้กันตลอดเวลา แต่กลับไม่มีความสุขก็มีถมไป"

ว่ามั้ย?



... ช่วงแรก ๆ ก็ชวนกันไปออกกำลังกายเพื่อสุขภาพอยู่หรอก .....
>////<

Chapter 2 นัดเจอกันครั้งแรก

มาถึง Part  นี้ ก็คงต้องเล่าถึงการเจอกันตัวเป็นๆ ครั้งแรกของเรา
เป็นการนัดเจอกันที่ร้านกาแฟโปรดของปลาเอง ซึ่งนัดโดยปลาเอง แล้วปลาก็ไปถึงก่อนเอง
ถามว่า "ตื่นเต้นมั้ย?" ตอนนั้นมือไม้สั่นเหมือนกันนะ
มันจะเกิดคำถามหลายอย่างที่มีในใจ "กูมาทำไมเนี่ย?" "กูนัดผู้ชายมาเจอ?" "แล้วดันมาเร็วกว่าเค้าอีก"
คือคำถามเยอะอ่ะ นั่งรอไปก็ลุ้นไป รถที่มาจอดคันแล้วคันเล่าก็ยังไม่ใช่รถเค้าสักที
ต้องบอกก่อนนะว่าที่ปลาเป็นคนนัด เพราะตั้งแต่คุยกันมา สถานะมันคลุมเครือ 
ถามจากพี่ที่รู้จักทั้งพี่ตั้มและเราเค้าก็บอกว่า พี่ตั้มไม่กล้าชวนให้มาเจอกันหรอก 
เพราะเค้ากลัวว่ามันจะไม่เหมาะ ตอนนั้นคิดแค่ว่า อะไรคือไม่เหมาะ? 5555 
ทำอะไร เราทำในที่สาธารณะอยู่แล้ว
ดังนั้นไม่มีอะไรน่ากลัวเลย ปลาคิดว่าการที่เราจะคบใครสักคน 
การเจอกัน การได้มองหน้ามองแววตานี่คือการเริ่มต้นการรู้จักซึ่งกันและกันที่ดีที่สุดแล้วล่ะ
เนอะ ๆ ว่ามั้ย? 

.
.
.
.
.

4  ตุลาคม  2556 เวลา 8 โมงกว่าๆ

สักพักมีรถกระบะขับมาจอด ชายตัวสูง สวมแว่นกันแดด 
หุ่นบึ๊กเดินลงมาจากรถ แล้วก็เดินตรูดบิดเข้าร้านกาแฟไป
ปลานั่งในรถก็ได้แต่ขำท่าทางที่เค้าหันซ้ายหันขวาเข้าไปในร้านเพื่อมองหาเรา
วันนั้นเป็นวันศุกร์ค่ะ ปลาต้องใส่ฟอร์มโรงเรียนสีม่วง ปลาลงจากรถและยิ้มเล็กน้อยเดินไปหาเค้า

คือเข้าใจวินาทีนั้นมั้ย ของคนที่ไม่เคยเจอกัน แต่คุยกันเกือบทุกวัน
ช่วงแรกๆ เค้าจะโทรมาบ่อยมาก บ่อยจนปลารู้สึกอึดอัดว่าผู้ชายคนนี้ทำไมจิกจัง เป็นไก่เหรอ?
บางครั้งเราก็เลี่ยงรับสายนะ เราทำแบบนี้บ่อยมากจนคิดเหมือนกันว่าเค้าจะรู้สึกยังไง

เราสั่งกาแฟกันคนละแก้ว
ในใจน่ะปลาเขินนะ แต่เก็บอาการ อีกฝ่ายนี่สิ เรารู้สึกได้ว่าเค้า "อายมาก" 
เพราะเค้าวางมือวางไม้ไม่ถูกเลย หน้าก็อมยิ้ม แว่นก็ไม่ถอด
แต่เรานั่งเฉย พูดคุยกันนิดหน่อย เอาพออายนั่นแหละ มาดูนาฬิกาอีกที ... 9 โมงแล้ว....

"งั้นเราไปกันเถอะ เข้ารร.สายแล้ว" ปลาเตรียมจะลุก
"ขออีก 5 นาที" ได้มั้ย?

5555555555555 คุณพระ อะไรกันผู้ชายคนนี้ ขอนั่งมองหน้าชั้นอีก 5 นาทีหรา
จะเสี่ยวก็เสี่ยวแหละ ปลาก็ได้แต่หัวเราะทั้งที่ในใจอายเหมือนกันนะ ตั้งแต่มีแฟนหรือคุยกับใครมา
ไม่เคยมีใครขออยู่ต่อเพื่อจะนั่งอยู่กับเราแบบนี้เลย

และพี่ตั้มก็คือผู้ชายคนนั้นที่ทำแบบนี้เสมอ ทุกครั้งเวลาที่เจอกัน
เมื่อเราจะแยกย้ายกันกลับบ้าน พี่ตั้มจะขอต่อเวลาที่จะอยู่ด้วยกันทุกครั้ง :)



อยากบอกพี่นะ ว่าตอนแรกเค้ากลัวมาก เพราะมีอยู่หลายครั้งที่เค้ารู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง
"ถ้าเราไม่สวยล่ะ?" "ถ้าเค้าไม่ชอบเราล่ะ?" "ต่อไปจะได้เจอกันอีกมั้ย?"
ทุกคำถามมันเกิดขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ
หลังจากที่แยกย้ายกันกลับ ช่วงกลางวันพี่ตั้มก็โทรมา ถามโน่นนี่ว่ากินข้าวหรือยัง ทำอะไร
ทุกอย่างเป็นปกติมาก เหมือนที่เค้าทำมาโดยตลอด

:)

ขอบคุณนะที่วันนั้นจนถึงวันนี้พี่ก็ยังเหมือนเดิม
มีบ้างที่ปลางี่เง่า ไม่รับสาย แต่พอเราปรับเข้าหากันจนเข้าใจทุกอย่างก็ดีขึ้น

จำได้มีอยู่ครั้งหนึ่ง ปลาไม่รับสาย จนพี่ขับรถมาหาแล้วถามว่าเป็นอะไร
บอกตามตรงมันจะมีช่วงที่ปลาสับสนอยู่บ้างว่าอยากอยู่คนเดียวหรืออยากมีใครสักคน
สิ่งที่ทำให้เข้าใจอีกอย่างในวันนั้นและสัญญาว่าจะทำให้กันเสมอคือ "มีอะไรเราต้องคุยกันให้เข้าใจ"
อย่าปล่อยให้ปัญหามันเรื้อรังนานเกินไป แล้วเราจะอยู่ด้วยกันอย่างสบายใจและมีความสุข





... เที่ยวเชียงใหม่ 3 กันยายน 2557 ...

Chapter 1 PEE & DAA คืออะไร




















... ถ่ายเมื่อ มีนาคม ปี 2557 วันที่พี่ตั้มขับรถพาเราไปงานรับปริญญาน้องในสายเทคที่ ม.บูรพา ...


PEE & DAA
.
.
.
.
.
คืออะไร


เราเชื่อว่าทุกคนที่มีคนคุย คนคบหรือเป็นแฟนกันมันต้องมีชื่อน่ารักๆ ที่เอาไว้เรียกกัน
ถ้าน่ารัก ๆ ก็เค้ากับตัวเอง เคยเจอประเภท เอ็ง ข้า นะ แต่รู้สึกว่ามันไม่ใช่
กับพี่ตั้ม จำได้ว่าพี่ตั้มเรียกปลาว่า "เรา" แล้วแทนตัวเค้าว่า "พี่"
ซึ่งมันธรรมดามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก 55555 แต่ช่วงนั้นบอกตามตรงว่าราเองยังเฉยๆ
คือยังไม่ตัดสินใจว่าจะยอมรับการจีบของเค้า เค้าเองก็พอรู้ตัวว่าเรายังไม่ค่อยเปิดใจ เลยเรียกกันเท่านี้

ต่อมาพอเราเริ่มคุยกันบ่อยขึ้น พี่ตั้มก็เริ่มใช้รหัสเรียกว่า "B1" กับ "ฺB2" 
ถามว่าเรารู้สึกยังไงตอนแรก เราว่ามันก็น่ารักนะ แต่มันตลกมากกว่า
คือมันหน่อมแหน้ม สำหรับคนอายุ 28 กับ 25 ที่จะมาเรียกกันเป็นกล้วยหอมจอมซน นึกออกมะ?
เรียกกันไปนานๆ ก็เขินปากตัวเองเหมือนกัน

ปลาเลยมานั่งคิดว่า เอาชื่ออะไรดีที่เป็นตัวแทนเรา 2 คน
คำว่า "PEE" มาจากชื่อจริงพี่ตั้ม คือพีระพันธ์  ส่วน "DAA" ก็มาจากชื่อจริงของปลา ก็คือ สุธิดา
ปลาคิดเองนะว่ามันเหมาะดี คือไม่คิขุ แล้วก็ไม่เหมือนใครดี 
พอเอามารวมกัน ถ้าไม่คิดอกุศล มันก็อ่านออกเสียงว่าปรีดาได้ ถูกมะ? อย่าอกุศลนะ อย่า ๆ  5555


มันเป็นแค่ชื่อหรือ Code ธรรมดาที่เอาไว้เรียกกันก็จริงนะ 
แต่เราว่าการที่จะคบใครสักคน ถ้ามีอไรพิเศษๆ เป็นตัวแทนของเราไว้มันก็น่ารักดี ว่ามั้ย? :)

PEE & DAA inspiration

14th Jan 2015   22.55 pm



ติ๊ก ต่อก ติ๊ก ต่อก ติ๊ก ....... ต่อก
"เขียนไดอารีดีกว่า"

:)


ตัดสินใจเปิดบล๊อกใหม่อีก 1 อัน หลังจากที่ทำไปหลายอันแล้ว
ตอนแรกคิดจะเขียนลงในสมุดไดอารี แต่ด้วยเวลา ด้วยความสะดวกสบาย
ปลาเลยคิดได้ว่าบันทีกลงในบล๊อกออนไลน์ดีกว่า

บล๊อกนี่อาจจะไม่ได้มีสาระอะไรมากมาย แต่ปลาทำขึ้นมาเพื่อใครคนหนึ่ง
คนที่ตอนนี้เรียกได้ว่าเค้าคือ "แฟนฉัน" .... ก๊ากกก (ติ่ง GTH มาเอง)
คงจะมีคนกดปิดตั้งแต่ตรงนี้ ฮ่าๆๆๆๆ คือเข้าใจว่าหลายคนคงคิดว่านี่คือบล๊อกคนอวดผ.
แต่จุดประสงค์ของปลาไม่ใช่อวดแฟนหรืออะไรแบบนั้นนะคะ
ต้องการเพียงแค่ถ่ายทอดความรู้สึกที่เรามีกับใครสักคนหนึ่ง
ซึ่งบางอารมณ์เราก็อาจจะไม่ได้มีโอกาสบอกเค้า หรือบางเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นความรู้สึกดีๆ ที่เรามี
เราแค่อยากถ่ายทอดออกมาในมุมมองของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีคนรัก
แล้วอยากจะพูดถึงคนรักของเธอ ในมุมมองที่เธอสัมผัสและเห็น
จริงอยู่ .... มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องป่าวประกาศให้ใครรู้  ไม่ใช่สิ่งที่ใครหลายคนอยากรู้
แต่เราเชื่อว่าสักวันหนึ่ง สิ่งเหล่านี้มันจะสร้างรอยยิ้มให้เราได้



เรามีแรงบันดาลใจมากจากการติดตามเพจของผู้หญิงคนหนึ่ง
ที่เธอเขียนบรรยายความรู้สึกถึงสามีอันเป็นที่รักของเธอ ในวันที่เธอไม่มีสามีอยู่ข้างกายไปตลอดชีวิต
หลายคนน่าจะพอจำข่าว ฮ.ตก แล้วมีนายทหารเสียชีวิตจำนวนมาก
หนึ่งในนั้นมีเรื่องราวของหญิงคนหนึ่งที่ต้องสูญเสียสามีในขณะที่ตั้งครรภ์
มันสะเทือนใจนะ เราเข้าเฟซบุค เจอข้อความที่เธอเขียนถึงสามีที่เพิ่งแต่งงานกัน
อ่านทุกครั้งก็รู้สึกแย่ทุกครั้ง รู้สึกสงสารและเห็นใจเค้ามาก คิดแต่ว่าเค้าจะกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ยังไง
ถ้าเป็นเราล่ะ เราจะทำใจได้มั้ย?
ชีวิตคนเรามันสั้น ถ้าวันนี้อยู่ด้วยกัน ก็ควรจะเก็บและตักตวงความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กันให้มากที่สุด




ตอนนี้กำลังมึนๆ ว่าจะเริ่มยังไงดี ฮ่าๆๆๆๆ
ทั้งเรื่องการเจอกันครั้งแรก อุปสรรคที่เราเจอ ความสับสน มือที่สาม? ความงี่เง่า การเอาชนะใจ
เยอะแยะไปหมดเลย วะฮะฮะฮะ บอกได้เลยว่ามีทุกรส แทบจะต้องปรึกษาพี่อ้อยพี่ฉอด
ชีวิตปลากว่าจะมีผู้ชายสักคนที่เราจะเรียกเค้าว่าแฟนได้นี่ลำบากนะ
ผ่านอะไรเยอะมาก ตลกมาก โมโหมาก ร้องไห้ ขำ เจอมาหมด
เดี๋ยวจะค่อยๆ เล่าให้ฟังนะคะ เริ่มตื่นเต้นเองแล้วสิ


...............................